Loading the player...


INFO:
ขอนำเอาเรื่องที่เขียนในหนังสือเล่มใหม่มาเล่าให้ฟังครับ เรื่องนี้เป็นคดีดัง!!! โพสบ่นเจ้านายเลิกจ้างได้!!! คดีนี้ลูกจ้างโพสลง Facbook มีว่า “ เมื่อไหร่จะได้ในสิ่งที่ควรได้ว๊ะ...ต้องกินต้องใช้ ไม่ได้แดกดินแดกลมนะ” และยังมีข้อความอีกว่า “ใครที่เกลียดเจ้านายเป็นบ้าเป็นหลัง โดนเจ้านายกลั่นแกล้ง หยุดซะเถอะความเกลียด ความโกรธ ปล่อยให้เขาเป็นอย่างนั้นไปคนเดียว เพราะถ้ามีเจ้านายเฮงซวยจริงๆ ก็ถือว่าเจ้านายของคุณมีทุกข์เยอะที่ชีวิตเขาต้องมาเจอลูกน้องเกลียดและเขาก็จะไม่มีความสุขในสิ่งที่เขาเป็น ยุ่งเหยิงยิ่งกว่าหมอย...ลูกค้าเกลียดวันที่ลูกค้าเต็ม...ตลอด 3 ปีมานี้เขาบอกว่าขาดทุนตลอด อยู่ได้ไงตั้ง 3 ปี...งง...ให้กำลังใจกันได้ดีมากขาดทุนทุกเดือน” ข้อความข้างต้นนี้นำมาสู่การที่ลูกจ้างคนดังกล่าวถูกเลิกจ้างโดยศาลพิพากษาว่าแยกข้อ ๆ ได้ว่า ๑) เฟชบุ๊คเป็นสื่อออนไลน์สาธารณะที่ผู้ใช้งานใช้ในการติดต่อกับบุคคลอื่นและบุคคลอื่นสามารถเข้าถึงข้อความที่มีผู้เขียนลงบนเฟชบุ๊คได้ และมีบุคคลภายนอกเข้ามาเขียนข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อความที่ลูกจ้างเขียนไว้บนเฟชบุ๊ก ๒) แม้ข้อความที่ลูกจ้างเขียนดังกล่าวมีลักษณะเป็นการระบายความคับแค้นข้องใจ แต่ก็ทำให้ผู้อ่านข้อความเข้าใจว่านายจ้างกลั่นแกล้งลูกจ้าง นายจ้างเป็นนายจ้างที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง เอาเปรียบลูกจ้าง และนายจ้างกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ๓) ลูกจ้างทำงานกับนายจ้างมาเป็นเวลานานย่อมทราบดีว่าการเขียนข้อความดังกล่าวย่อมมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในการบริหารของนายจ้าง ซึ่งมีความสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการของลูกค้า -การกระทำของลูกจ้างจึงเป็นการจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 119 (2) และเป็นการกระทำประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต ตาม ป.พ.พ.มาตรา 583 นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้าง ข้อสังเกต 1) คดีนี้ศาลไม่ปรับเข้ามาตรา 119(1) เพราะไม่น่าจะเป็นความผิดอาญาในฐานหมิ่นประมาท ทั้งนี้ เพราะเป็นลักษณะคำบ่น 2) แต่